พระพยอม เผยพระนอนโลงศพเป็นการฝึกเจริญมรณานุสติ ปีหน้าอาตมาขอหยุดทุกอย่างฝึกตายก่อนตาย
จากกรณีพระครูวิกรมวชริสาร เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ใหม่ ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้มีการจำวัดในโลงศพสีน้ำตาล 1 ใบ ข้างโลงเขียนว่า พ.ศ. 2537 วันตายให้เผาเลย ห้ามสวด ห้ามรดน้ำ ห้ามทำบุญทุกอย่าง ใครไม่ทำตามจะมีอันเป็นไป ภายในโลงมีผ้าจีวรกรุไว้รอบโลงเพื่อกันเสี้ยนจากไม้ มีที่นอนแบบง่ายและหมอนวางอยู่ มีผ้าห่มสีเหลืองบาง ๆ อีก 1 ผืน ปลายเท้ามีคำว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ส่วนสาเหตุที่ไปนอนในโลง เนื่องจากเคยเห็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด หลังจากมรณภาพแล้วไม่มีโลงใส่ศพ ญาติก็เกี่ยงกันซื้อ พอเห็นเหตุการณ์นี้ก็รีบซื้อโลงทันที แต่อาตมามีเงินเพียง 5,000 บาท จากราคาขาย 15,000 บาท จึงขอผ่อน 1 ปีจนหมด
(01 ก.ค.67) พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ในกรณีท่านเจ้าอาวาสที่ปรากฏในข่าวดังกล่าวเป็นการฝึกเจริญมรณานุสติทำให้รู้สึกกับความตายต่อเนื่อง หรือการเตรียมใจรับมือกับความตาย ตามหลักพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า การฝึกเจริญมรณานุสติ จะไม่ตั้งอยู่ในความประมาท และเป็นการดีที่ทำพินัยกรรม เปรียบเหมือนหลวงพ่อพุทธทาส ได้ทำพิธีกรรมว่าอย่าสวดศพ อย่าสรงน้ำศพ ตายแล้วให้เผา ซึ่งในตอนนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยังไปไม่ทัน ส่วนอาตมาทางหลวงพ่อพุทธทาสเคยได้กล่าวไว้ว่า ให้เอาเวลามางานศพไปเผยแพร่เทศน์คำสอนของพระพุทธเจ้าเสียดีกว่า
ส่วนกรณีนี้ถือว่าพระรูปนี้มีทิฏฐานุคติเป็นแบบอย่างที่น่าสนใจ น่าปฏิบัติตาม มีการเตรียมตัวก่อนตายไม่ให้การเผาศพเป็นเผาทรัพย์ ทั้งนี้อาตมาก็ได้เตรียมการไว้เช่นกันประมาณปีหน้าอายุตอนนี่ก็ประมาณ 75-76 ปีแล้ว จะหยุดการอยากไปอยากเป็นหรือเรียกได้ว่า “ตายก่อนตาย” ซึ่งจะหยุดความรู้สึกที่อยากจะไปโน้นไปนี่ และอยากเป็นโน้นเป็นนี่ให้มันตายเบาจางหายไปไม่อยู่ในความประมาท อาตมาพอแล้วเดินทางไปทั่วทุกที่ ขณะนี้มันถึงเวลาของอาตมาแล้ว หากมีใครเรียกให้รับรางวัลหรือเลื่อนตำแหน่งอะไรทุกอย่างตนจะไม่ไป เปรียบเสมือนกับพระรูปนี้อาตมาก็ขออนุโมทนากับเจ้าอาวาสรูปนี้ด้วย แต่ตนคงไม่ถึงขั้นที่จะนอนในโลงศพ
ส่วนประเด็นที่มีประชาชนตั้งข้อสังเกตหรือขัดหูขัดตาเกี่ยวกับการนอนในโลงศพ ซึ่งการกระทำของพระรูปนี้ไม่ได้ไปให้ทุกข์กับใคร และไม่มีใครได้รับโทษ เพียงแต่ลำบากที่สังขารของท่าน แต่การที่เป็นใจทำนี้ความลำบากก็คงทำอะไรไม่ได้อาตมาก็ขอให้เต็มใจทำและตั้งใจทำต่อไป